วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

“พัฒนาพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ในศตวรรษที่ 21 ฟันเฟืองสู่การอภิวัฒน์การศึกษาไทย”

     ประเทศไทยมีการปฎิรูปการศึกษามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2542 และรัฐบาลได้ทุ่มเทจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปี หรือคิดเป็นร้อยละ 20.5 ของงบประมาณทั้งหมด เรียกได้ว่าสูงเป็นอันดับที่สองของโลก แต่ในทางกลับกันผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของไทยจากสถาบันวิชาการในระดับชาติและในระดับนานชาติต่างบ่งชี้ว่าคุณภาพการศึกษาของไทยตกต่ำ
     ทั้งนี้ในการจัดประชุมอภิวัฒน์การเรียนรู้สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทยที่จัดขึ้นโดย สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้จัดเวทีอภิปรายในหัวข้อ “การพัฒนาครูเพื่อจัดการเรียนการสอนสำหรับศตวรรษที่ 21 เพื่อนำไปสู่การหาแนวทาเพื่อพัฒนาครูให้เหมาะสมสำหรับการพัฒนาระบบการศึกษาในประเทศไทยขึ้น
       รศ.ดร.ทิศนา แขมมณี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า  มีคำถามเกิดขึ้นอย่างหลากหลายว่าการพัฒนาครูในศตวรรษที่ 21 จะไปในทิศทางไหน โดยในหลากหลายภาคส่วนได้ให้ข้อสรุปว่าการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มคือ  1.ความรู้ในวิชาแกน  2.คุณธรรมและคุณลักษณะ 3.ทักษะทางปัญญา ซึ่งรวมถึงทักษะการสื่อสารการคิดวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์  4.ทักษะทางสังคม ซึ่งได้แก่การรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม และ 5.ทักษะการเทคโนโลยี ซึ่งจากทักษะทั้ง 5 นั้น สิ่งที่จำเป็นต้องอภิวัฒน์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาครูคือทักษะใน 3 กลุ่มหลัก คือทักษะทางปัญญา ทักษะทางสังคมและทักษะการใช้เทคโนโลยี เพราะทักษะเหล่านี้ได้รับการวิเคราะห์และยอมรับในมุมวิชาการแล้วว่าเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กที่จะนำไปสู่การดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพในศตวรรษที่ 21  ด้วยเหตุนี้ครูผู้สอนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาแนวทางนำทักษะดังกล่าวมาบูรณาการกับเนื้อหาทางวิชาการเพื่อสนับสนุนให้การเรียนรู้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
          ดร.พิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่าในปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบในการพัฒนาครูมีเป็นจำนวนมาก แต่ทุกหน่วยงานมีความแตกแยกไม่เป็นเอกภาพจึงทำให้การพัฒนาครูยังไปไม่ถึงไหน สิ่งสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาประสบความสำเร็จคือจะต้องควบรวมหน่วยงานเหล่านี้ให้มีความเป็นเอกภาพ ซึ่งการพัฒนาครูให้เหมาะสมกับศตวรรษที่ 21 นั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่การผลิตครูที่เราจะต้องยกเครื่องกระบวนการในการผลิตครูใหม่ ซึ่งในเรื่องนี้หน่วยงานทุกภาคส่วนต้องช่วยกันทั้งรัฐ เอกชน ท้องถิ่น ภาคประชาสังคม โดยต้องช่วยกันดูระบบและวางแผนการศึกษาร่วมกัน จัดการการศึกษาที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่หลากหลาย จากนี้จะต้องมีการกระจายอำนาจเพื่อทำให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาครูอย่างแท้จริง และที่สำคัญต้องเน้นการทำงานที่เป็นเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือในการพัฒนาครูอย่างเป็นรูปธรรม
            ศาสตราจารย์ Thomas B. Corcoran  , Columbia University กล่าวย้ำว่า ในความหมายของครูที่จะก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 นักเรียนและครูต่างมีหน้าที่ของตนเองที่ต้องช่วยกันพัฒนามากขึ้น เพราะในยุคปัจจุบันโครงสร้างของครอบครัวมีสภาพที่อ่อนแอมากขึ้น เด็กมีสิ่งยั่วยวนมากขึ้นทั้งเรื่องเกม ยาเสพติด หรือแม้กระทั้งการเสพสื่อทางเทคโนโลยีที่ผิด จึงทำให้การพัฒนาระบบการศึกษาของครูในทศวรรษที่ 21 เพื่อเด็กในศตวรรษนี้เป็นเรื่องที่ยากและท้าทายที่จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ไข ทั้งนี้ปัญหาที่มักพบกับครูในหลายประเทศทั่วโลกคือกระบวนการการสอน ครูมักจะเน้นสอนในทางทฤษฎีมากกว่าวิชาปฏิบัติซึ่งถือเป็นความรู้ที่มีมากกว่าในห้องเรียนซึ่งตรงส่วนนี้ก็ทำให้การพัฒนาระบบการสอนของครูหยุดชะงักลงได้  นอกจากนี้สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการต่อมาคือต้องปลูกฝังครูรุ่นใหม่ให้มีประสบการณ์ในการสอนทางด้านทักษะวิธีคิดต่างๆ ให้เข้มข้นมากกว่าเดิม ถ้าเป็นไปได้ก่อนที่ครูจบใหม่จะไปสอนจะต้องมีครูพี่เลี้ยงคอยแนะนำให้คำปรึกษาอย่างเข้มข้น และควรต้องมีการประเมินการฝึกสอนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาต่อไป
อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมสัคมแห่การเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น