มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะ ทำให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็ง เม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มะเร็งมีสาเหตุส่งเสริมได้จากหลายสาเหตุดังนี้
เชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งโพรงจมูก หรือเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในกระเพาะอาหารมีคนพบว่าเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารค่ะ
พยาธิใบไม้ในตับก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับและทางเดินน้ำดี
สารเคมีหลายชนิดก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น พวกแอสเบสทอส ทำให้เกิดมะเร็งปอด นิเกิล โครเมี่ยม เป็นต้น
ยาบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมน ซึ่งไม่ควรจะรับประทานเอง ควรจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ หรือยารักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น
วิธีการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง คือ พยายามหลีกเลี่ยงจากสารก่อมะเร็งดังที่กล่าวแล้ว เช่น พยายามอย่าสูบบุหรี่ อย่าดื่มสุรามากเกินไป พยายามใช้ชีวิตให้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ก็จะสามารถช่วยให้คุณลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ค่ะ
สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่อาจจะแสดงว่าเป็นอาการของโรคมะเร็ง มีดังนี้
1. มีการเปลี่ยนแปลงในการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ เช่น มีเลือดออก ท้องเสียหรือท้องผูกผิดปกติ
2. มีแผลเรื้อรังที่ไม่หาย โดยเป็นนานมากกว่า 3 สัปดาห์
3. มีเลือดออก หรือมีน้ำคัดหลั่งไหลออกมาจากบริเวณช่องต่าง ๆ ของร่างกายผิดปกติ เช่น หัวนม ,จมูก , ช่องคลอด เป็นต้น
4. คลำได้ก้อนที่เต้านม หรือที่อื่น ๆ ของร่างกาย
5. ท้องอืด อาหารไม่ย่อย มีอาการปวดท้อง กลืนลำบาก เป็นต้น
6. ไฝหรือจุดเล็ก ๆ ตามร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น โตขึ้น มีสีผิดปกติหรือมีเลือดออก
7. อาการไอที่ผิดปกติ เช่น ไอปนเลือด ไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ
ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า.
สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลก (Globocan) พบว่ามะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทยและผู้หญิงทั่วโลก จากสถิติดังกล่าวในปี 2555 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมทั่วโลกทั้งสิ้นราว 6,255,000 ราย ซึ่งในทุกๆ 1 นาที จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านม 1 ราย สำหรับประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมกว่า 54,000 ราย และพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ถึง3 ราย ในทุกๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่นับรวมผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ยังตรวจไม่พบหรือยังไม่ได้เข้ารับการรักษา ทั้งนี้ ผู้หญิงไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมถึงวันละ 14 ราย
สาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าพันธุกรรมมีส่วนสำคัญ พบว่าคนที่มีญาติสายตรงเป็นโรคมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งรังไข่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าคนทั่วไป และควรรับการตรวจมะเร็งเต้านมทุกปี ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ การสูบบุหรี่ และการใช้ฮอร์โมนเสริม เป็นต้น มะเร็งเต้านมที่ตรวจพบโดยทั่วไปแบ่งได้ง่ายๆ เป็น 3 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ดังนี้ สายพันธุ์ตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งเป็นประเภทที่พบมากที่สุด, สายพันธุ์เฮอร์ทู พบได้ประมาณ 20% ของมะเร็งเต้านมทั้งหมด และชนิดไตรโลปะที่ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน พบได้ประมาณ 15% ของมะเร็งเต้านมทั้งหมด อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมและได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว ยังคงมีโอกาสกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมได้อีก
รองศาสตราจารย์นายแพทย์นรินทร์ วรวุฒิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า “การกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมซ้ำหลังจากรักษา ซึ่งมีระยะเวลาเฝ้าระวังประมาณ 12 ปีนั้น มี 3 รูปแบบใหญ่ๆ คือ การเป็นซ้ำในบริเวณเดิมและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นการกำเริบเฉพาะที่ ส่วนการกำเริบในต่อมน้ำเหลืองใกล้ๆ เรียกว่าการกำเริบในบริเวณข้างเคียง และถ้ามีการกำเริบในอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย เรียกว่าการกำเริบแบบมีการแพร่กระจาย การรักษามะเร็งกำเริบเฉพาะที่ แม้ว่าจะทำได้ยากกว่าการรักษาครั้งแรก แต่ก็ไม่จัดเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย ยังสามารถรักษาให้หายได้ ในกรณีที่มีการกำเริบและมีการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะอื่นแล้ว จัดว่าเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย ซึ่งการรักษาระยะนี้ มักหวังผลเพื่อยืดชีวิตของผู้ป่วย รักษาคุณภาพชีวิต และบำบัดอาการของโรคเป็นหลัก”
“มะเร็งเต้านมสายพันธุ์เฮอร์ทูเป็นมะเร็งที่เกิดจากการกลายพันธุ์เพิ่มปริมาณของยีนก่อมะเร็งเฮอร์ทูและมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หากรักษาไม่ถูกต้องตรงตามกลไกการเกิดโรคอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันสั้น สำหรับผู้ป่วยมะเร็งสายพันธุ์เฮอร์ทูในระยะแพร่กระจายนั้น การรักษาโดยมาตรฐานทั่วไปในอันดับแรกนั้น มักใช้ยาฉีดกลุ่มยาต้านเฮอร์ทูควบคู่กับยาเคมีบำบัด อย่างไรก็ตาม พบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษามาตรฐานนี้ ยังคงมีการพัฒนาของโรครุนแรงมากขึ้นในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการดื้อยา”
“ล่าสุด นักวิจัยจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่เป็นยาฉีดเพื่อรักษาโรคมะเร็งเต้านมสายพันธุ์เฮอร์ทู ที่นำมาใช้ร่วมกับยาต้านเฮอร์ทูตัวเดิมและยาเคมีบำบัดเพื่อป้องกันการดื้อยา โดยยาตัวใหม่นี้มีประสิทธิภาพยับยั้งและขัดขวางการรวมตัวกันของโปรตีนเฮอร์ทูกับโปรตีนเฮอร์ชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการดื้อยาตัวเดิม อาจกล่าวได้ว่าเป็นนวัตกรรมก้าวกระโดดที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยาต้านเฮอร์ทูรุ่นก่อน ช่วยลดการลุกลามของโรค และช่วยยืดอายุของผู้ป่วยได้”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น